Digital Convergence

Digital Convergence ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ
1.การรวมตัวกันของข้อมูล (Data/Content Convergence)
2.การรวมตัวกันของอุปกรณ์ (Device Convergence)
3.การรวมตัวกันของเครือข่าย (Network Convergence)

17417625.jpg

1.การรวมตัวกันของข้อมูล (Data/Content Convergence)

เกิดขึ้นแล้วต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี นับตั้งแต่ระบบต่างๆ ของโทรศัพท์ เช่น 470, 800, 900, 1800 Etc. โทรข้ามกันได้โดยไม่มีข้อจำกัด ข้อมูลต่างๆ สามารถส่งข้ามกันได้จาก โทรศัพท์มือถือเข้า PDA, PDA ส่งต่อเข้า Computer Notebook, Computer Notebook ส่งกลับมาที่มือถือ

2.การรวมตัวกันของอุปกรณ์ (Device Convergence)

เกิดขึ้นหลังจากเริ่มยุคการรวมตัวกันของข้อมูลได้ไม่นาน ก็เกิดขึ้นดังตัวอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นโดยเริ่มจากอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ ก่อน เช่น จอทีวีที่เป็นจอคอมพิวเตอร์ได้ และเมื่อเทคโนโลยี Semi-Conductor มีการพัฒนาสูงขึ้นจากระดับไมโครหรือนาโนต่อๆมา ทำให้อุปกรณ์ขนาดเล็กเกิดการรวมตัวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ สามารถถ่ายรูปด้วยความละเอียดระดับล้านพิกเซลได้ หรือแม้กระทั่งถ่าย VIDEO ต่อเนื่องได้เป็นชั่วโมง หรือ SIM เล็กๆ ในโทรศัพท์สามารถ บรรจุเบอร์โทรศัพท์ได้มากกว่า 500 เบอร์

การรวมตัวของทั้งข้อมูลและอุปกรณ์ ที่มี ต่อเนื่องมาตลอดนั้น ทำให้เกิดคำว่า Convenience ขึ้นกับชีวิตเราในปัจจุบัน ลองนึกภาพที่สมัยก่อนเราจะต้องมีสมุดโทรศัพท์ 1 เล่ม, เหรียญบาท 1 กำ, กล้องถ่ายรูปอีก 1 ตัว, รูปแฟนอีก 3-4 ใบ (เผื่อคิดถึง), ซาวด์อเบาท์อีกเครื่อง ปัจจุบันแค่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวสามารถทดแทนได้หมดทำให้ความสะดวก สบาย (Convenience) นั้นๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นความคุ้นเคย (Familiar) และเป็นความจำเป็น (Necessity) มากขึ้น จนกระทั่งเกิดความรู้สึกแปลกๆ ในวันที่ไม่มีมือถือนั่นเอง

3.การรวมตัวกันของเครือข่าย (Network Convergence)

เกิดขึ้นตามการดำเนินชีวิตของเราดังที่กล่าวในข้างต้นคือ ที่บ้านก็จะเกิด Home Network จากการที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่น โทรทัศน์, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, แอร์ ฯลฯ สามารถจะสื่อสาร กันได้ โดยอาจจะมีตู้เย็นอินเทอร์เน็ต หรือ Home Control Pad เป็นศูนย์กลางผ่านทางระบบ LAN หรือ Wireless (802.11)
สำหรับที่ทำงานก็จะเกิด Office Network ซึ่งเกิดมานานพอสมควรแล้วผ่านทางระบบ LAN หรือ Wireless (802.11) เช่นเดียวกัน ซึ่งในอนาคตจะมีการรวมตัวกันของเครือข่ายที่ทำงานกับที่บ้าน คือ การที่เราสามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายในบ้าน เช่น เปิด-ปิดไฟ, แอร์ ซึ่งจะสร้างความสบายขึ้นอีกระดับหนึ่ง
สุดท้ายคือ Mobile Network คือเราสามารถที่จะใช้โทรศัพท์มือถือที่เป็น PDA หรือ Pocket PC เช็ค e-mail ที่ทำงาน หรือควบคุมการทำงานของระบต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างไม่มีปัญหา เมื่อ Mobile Network เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ผมมองว่าเราคงจะต้องมีอุปกรณ์สื่อสารที่พกติดตัวถึงสองเครื่องในเวลาเดียว กันคือตัวนึงใช้เป็นโทรศัพท์มือถือจริงๆ และอีกตัวใช้ในการทำงานนอกสถานที่ นี่ก็คือ Power ของ Network Convergence ที่กำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตเรา


ที่มา
http://www.arip.co.th/businessnews.php?id=408656
http://www.digitalconvergence.eu/innovation.html

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License